
Design Talk ครั้งนี้ พี่ธี ชวนทีมมาพูดคุยเรื่อง Emotional UX – ดีไซน์ที่ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้อง “รู้สึกได้”
“การออกแบบ” ไม่ได้หยุดอยู่ที่ความสวยงามหรือการใช้งานที่ง่าย แต่ต้องเป็น ประสบการณ์ที่เชื่อมถึงใจผู้ใช้ ✨
บรรยากาศเต็มไปด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์ 🌀 มีทั้งการแชร์เคสจริงจากงานดีไซน์ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการชวนคุยว่าทำไมบางแอปทำให้เรา ยิ้มได้ 😊 ในขณะที่บางดีไซน์ก็อาจทำให้เรารู้สึก หงุดหงิด 😤
สิ่งที่ทีมได้เรียนรู้ร่วมกันคือ 👉 UX ที่ดี ต้องสร้าง connection กับหัวใจของผู้ใช้ ไม่ใช่แค่ตอบโจทย์การใช้งาน แต่ต้องทำให้ผู้ใช้ “อิน” และ “รัก” การใช้งานนั้นจริง ๆ 💖
5 Key ของ Emotional UX
1. ทำถึงใจ (Delightful) – UX ที่ดีต้อง เซอร์ไพรส์เล็กๆ หรือสร้าง moment ที่ทำให้ผู้ใช้ยิ้มได้ 😊
2. ทำถึงฟีล (Empathy) – เข้าใจผู้ใช้จริงๆ ไม่ใช่แค่สิ่งที่เขาทำแต่รวมถึงความรู้สึกตอนใช้งานด้วย 🫶
3. ทำถึงความจำ (Memorable) – ดีไซน์ที่มีอารมณ์ร่วมจะถูกจดจำได้นานกว่า UX ที่แค่ใช้ง่ายๆ ✨
4. ทำถึงความเชื่อใจ (Trust) – อารมณ์ที่ดีเกิดจากการรู้สึกปลอดภัย มั่นใจและเชื่อมโยงกับแบรนด์ 🔒
5. ทำถึงการมีส่วนร่วม (Engagement) – เมื่อผู้ใช้ “อิน” กับประสบการณ์ เขาจะอยากกลับมาใช้อีกและเล่าให้คนอื่นฟัง 🎤
“ข้อควรระวัง” ไม่งั้นอาจกลายเป็นประสบการณ์ที่ผิดฟีลได้
1. อย่าบังคับฟีล (Over-forcing Emotion)
การใส่ emotional element มากเกินไป (เช่น popup น่ารักเกินเหตุ, เสียง effect บ่อย ๆ) อาจทำให้ผู้ใช้ รำคาญ แทนที่จะอิน 😅
2. อย่าลืมฟังก์ชัน (Form over Function)
ดีไซน์ที่ทำให้รู้สึกดีต้องไม่ลดทอน usability — ถ้าใช้งานยาก ต่อให้ vibe ดี ผู้ใช้ก็จะหนีไปอยู่ดี 🚪
3. อย่าเหมารวมความรู้สึก (One-size-fits-all)
คนแต่ละกลุ่มมี emotional response ต่างกัน เช่น บางคนชอบ UX ที่ playful แต่บางคนมองว่าไม่ professional ดังนั้นต้องรู้จักผู้ใช้จริง ๆ 🧑🤝🧑
4. อย่าทำให้เสีย trust (Trust Breaking)
ใช้ emotional design อย่างไม่จริงใจ เช่น ปุ่มหลอกกด (dark pattern) หรือข้อความที่เกินจริง จะทำให้ผู้ใช้ เสียความเชื่อมั่น ต่อแบรนด์ทันที 🚫
5. อย่าลืมความสมดุล (Balance is Key)
UX ต้องเป็นการผสมผสานระหว่าง logic + emotion ถ้าเน้นแต่ฟีลจนหลุด context จะไม่ยั่งยืน 🌀




ประโยชน์ของ Emotional UX – ทำถึงใจผู้ใช้ 💖
1. สร้างความประทับใจแรก (First Impression Matters) UX ที่ดีและ “ทำถึงใจ” จะทำให้ผู้ใช้รู้สึกประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้งาน และเพิ่มโอกาสให้กลับมาใช้อีก 🌟
2. เพิ่ม Engagement ของผู้ใช้ (User Engagement) เมื่อผู้ใช้ อิน กับประสบการณ์ พวกเขาจะมีส่วนร่วมมากขึ้น เช่น คลิก อ่าน แชร์ หรือใช้ฟีเจอร์ใหม่ ๆ 🌀
3. สร้างความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) UX ที่มีอารมณ์ร่วมทำให้ผู้ใช้รู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์ และเพิ่มโอกาสให้ใช้บริการซ้ำ 💖
4. ช่วยให้ประสบการณ์น่าจดจำ (Memorable Experience)
ดีไซน์ที่สร้างความรู้สึก ทำให้ผู้ใช้จำผลิตภัณฑ์หรือบริการได้นาน และบอกต่อเพื่อน ๆ หรือเพื่อนร่วมงาน 👀
5. ลดความเครียดและความหงุดหงิด (Reduce Friction)
UX ที่ใส่อารมณ์และ empathy จะช่วยให้ผู้ใช้รู้สึก สบายใจ ใช้ง่าย ไม่หัวร้อน แม้เจอปัญหาเล็ก ๆ 😌
6. เพิ่มการบอกต่อ (Word of Mouth / Advocacy)
ผู้ใช้ที่รู้สึกดีจะอยากเล่าให้คนอื่นฟัง ทำให้แบรนด์เติบโตแบบ organic โดยไม่ต้องพึ่งโฆษณามาก 🗣️
Emotional UX คือแนวคิดการออกแบบ User Experience (UX Design) ที่สร้างประสบการณ์ผู้ใช้ด้วยอารมณ์และความรู้สึก ไม่ใช่แค่การใช้งานง่ายแต่ผู้ใช้ต้อง “อิน” และจดจำประสบการณ์นั้น ทำไม Emotional UX สำคัญต่อธุรกิจ
การออกแบบ UX ที่ทำถึงใจผู้ใช้ช่วยเพิ่ม ความพึงพอใจ, การมีส่วนร่วม, ความภักดีต่อแบรนด์ และการบอกต่อ ซึ่งทั้งหมดส่งผลต่อ การเติบโตและความสำเร็จของธุรกิจ
Blueseas มุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล โดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้เป็นหัวใจหลัก พร้อมส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรฐานการออกแบบในยุคดิจิทัล เพราะงานออกแบบที่ดี…ต้องไม่ใช่แค่ดีไซน์ถูก แต่ต้อง “รู้ว่าคนใช้อยากได้อะไร”